สำหรับคนรุ่นใหม่มักมองหางานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเค้า มากกว่าการทำงานที่ถูกตีกรอบด้วยแนวคิดของผู้มีอำนวนสูงกว่า จะเห็นได้ว่าการก้าวกระโดดของการทำงานในแต่ละองค์กรมักไม่เท่านั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองและระบบการบริหารของแต่ละที่ ทำให้ทุกวันนี้ทั้งคนจบใหม่หรือคนที่อยากเปลี่ยนงาน เริ่มผันตัวเองมาจับอาชีพเป็นพ่อค้า หรือแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องด้วยทุกวันนี้โลกของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้รูปแบบของการทำงานก็ต้องปรับตัวตามไปด้วยเช่นกัน พนักงานคนไหนที่ไม่รู้จักพัฒนาตนเองหรือไม่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่ก้าวเข้ามา ก็มักจะโดนคลื่นลูกใหม่กลืนหายไป
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเคยผ่านการทำงานมาแล้วหรือเพิ่มเรียนจบมาก็ตาม การยกระดับคุณภาพความสามารถของคุณถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยิ่งคุณมีความรู้ ความสามารถมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้ก็จะยิ่งช่วยให้คุณสามารถต่อยอดการทำงานใหม่ๆ รวมถึงมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งก็เป็นได้ แน่นอนว่าทุกวันนี้ไม่มีพนักงานประจำคนไหนที่ทุ่มเทการทำงานทั้งชีวิตจนเกษียณให้แก่บริษัทเดียวอย่างแน่นอน
7 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่อยากเปลี่ยนงาน
- สภาพสังคม ภาพรวมก็คือสภาพแวดล้อมในการทำงานนั่นเอง จะเห็นได้ว่าในต่างประเทศบริษัทชั้นนำมากมายได้เลียนแบบการออกแบบออฟฟิต ให้เหมือนบริษัท google ที่เค้าออกแบบห้องทำงานให้ดูทันสมัยให้พนักงานของพวกเค้ารู้สึกผ่อนคลายและที่สำคัญสามารถตอบโจทย์ต่อกระบวนการทำงานของพวกเค้าด้วย เพราะเค้ามีความคิดว่าการที่มีห้องพักผ่อนหรือห้องทำงานที่ผ่อนคลายจะช่วยให้พนักงานของพวกเค้าสามารถคิดงานและไอเดียใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้
- ชีวิตความเป็นอยู่ หลายคนที่อยากเปลี่ยนงานเป็นเพียงเพราะต้องการให้เค้ามีสภาพแวดล้อมทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเค้าดีขึ้น หรือเรียกง่ายๆ คือช่วยยกระดับคุณภาพสังคมให้ดีขึ้น เพราะการที่คุณอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็จะทำให้ทัศนคติและแนวคิดของคุณเปลี่ยนไปด้วย ไม่มีใครที่อยากทำงานไปแล้วยิ่งทำยิ่งลำบาก ส่วนใหญ่แล้วก็อยากทำงานไปแล้วมีฐานะทางการเงินทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
- คุณภาพชีวิต การที่องค์กรส่วนใหญ่มีพนักงานจำนวนมากซึ่งแต่ละคนมาจากครอบครัวหรือมีพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นหลายองค์กรควรจัดการฝึกอบรมเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่พวกเค้า ถึงจะไม่สามารถทำให้พวกเค้ามีฐานะที่ร่ำรวยได้ แต่คุณสามารถยกระดับสภาวะจิตใจของพวกเค้าให้สามารถคิดดีทำดีได้เช่นกัน
- ฐานเงินเดือน ต้องยอมรับว่าเหตุผลนี้คือเหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่มักเลือกเปลี่ยนงาน เพราะพวกเค้ามีความคิดว่าตนเองทำงานมานานแล้ว และทำงานหนักมาก แต่ผู้บริหารหรือหัวหน้างานมองไม่เห็น จึงไม่ได้มีการปรับเงินเดือนตามความเหมาะสม ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้คนทำงานประจำหลายคนเงินเดือนไม่พอใช้ ต้องกู้หนี้ยืมสินหรือไม่ก็ต้องหารายได้พิเศษมาช่วยจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง
- สวัสดิการ แน่นอนว่าการแสดงถึงความใส่ใจแก่พนักงานถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนหางานส่วนใหญ่กำลังมองหาองค์กรแบบนั้นอยู่ ที่พวกเค้าสามารถมอบสวัสดิการหรือผลประโยชน์ให้กับพวกเค้าได้มาก เท่าที่พวกเค้าพึงพอใจ เพราะต้องวันนี้ต้องยอมรับว่าหลายองค์กรได้มีการปรับกลยุทธ์โดยการใช้ตัวสวัสดิการนี่หละ มาเป็นตัวแข่งขันทำให้คนหางานเกิดความสนใจและสมัครงานกันเข้ามา
- ผลตอบแทน จะเห็นได้ว่าคนรุ่นใหม่มักเปลี่ยนงานกันค่อนข้างบ่อย เพราะพวกเค้ามีความเชื่อว่า การที่พวกเค้าจะต้องเข้าไปทำงานนั้น พวกเค้าจะต้องได้รับผลตอบแทนหรือค่าแรงที่มีความเหมาะสม จึงทำให้ปัจจุบันนี้เกิดปัญหากับหลายองค์กรในการหาแรงงานเข้ามาทำงาน
- เพื่อนร่วมงาน อันนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย แน่นอนว่าทุกองค์กรมีการทำงานเป็นคนหมู่มาก ยอมไม่ผิดที่จะมีความคิดหรือความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางครั้งความคิดที่ไม่เหมือนกันนี้อาจจะนำพาไปสู่ความขัดแย้ง ทำให้เกิดการแบ่งฝ่าย รวมถึงการนินทาหรือว่าร้ายกันเพิ่มมากขึ้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนที่โดนกระทำรู้สึกทนไม่ไหวและไม่ชอบจึงอยากที่จะเปลี่ยนงาน
หลากหลายเหตุผลที่กล่าวไปแล้วนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ผู้สมัครงานนำมาใช้ในการบอกกล่าวแก่องค์กรใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุผลเหล่านี้จะไม่มีความหมายเลย หากคุณเป็นคนเก่ง เป็นคนที่พัฒนาตนเองอยู่เสมอ การที่คุณจะอยู่ที่ไหนก็ตามจะต้องมีคนที่เค้ามองเห็นคุณค่าของคุณอย่างแน่นอน